วันพุธที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553


แฟนตาซี

แฟนตาซี (อังกฤษ: Fantasy) เป็นงานวรรณศิลป์ประเภทหนึ่งที่มีเค้าโครงหรือเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์และเรื่องเหนือจริง มักมีความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในยุคกลางของยุโรป หรือมีลักษณะที่แสดงถึงยุคเดียวกันนั้น เช่นสถาปัตยกรรม สิ่งก่อสร้าง เครื่องแต่งกาย หรือเทคโนโลยี โลกแห่งแฟนตาซีมักยอมรับสภาวะเหนือจริงและเวทมนตร์ต่างๆ เหมือนเป็นเรื่องปกติ ความแตกต่างระหว่างแฟนตาซี กับนิยายวิทยาศาสตร์หรือนิยายสยองขวัญ คือลักษณะของเทคโนโลยีและวิธีการนำเสนอเกี่ยวกับความตาย งานแฟนตาซีประกอบด้วยผลงานประพันธ์ของนักเขียน ศิลปิน นักดนตรี หรือนักสร้างภาพยนตร์มากมาย นับแต่อดีตกาลประหนึ่งปกรณัมหรือตำนานลี้ลับ สืบต่อมาจนถึงปัจจุบันที่เผยแพร่แก่ผู้คนจำนวนมาก

ประวัติ

งานแฟนตาซีชิ้นแรกที่พบเห็นเป็นหลักฐานอาจได้แก่ มหากาพย์กิลกาเมช (the Epic of Gilgamesh) แต่งานแฟนตาซีเก่าแก่มีอยู่มากมายเช่น มหากาพย์โอดิสซีย์ ตำนานเบวูล์ฟ มหาภารตะ พันหนึ่งราตรี รามายณะ จนกระทั่งถึง ตำนานกษัตริย์อาเธอร์ และมหากาพย์ต่างๆ มากมายในยุคกลาง ที่เกี่ยวข้องกับวีรบุรุษ วีรสตรี ปีศาจอันน่าสะพรึงกลัว และดินแดนลี้ลับ ซึ่งดึงดูดความสนใจของผู้ฟังเป็นอย่างยิ่ง กล่าวไปแล้ว ประวัติศาสตร์ของแฟนตาซีกับประวัติศาสตร์วรรณกรรมก็มีความเกี่ยวพันใกล้ชิดกันมาก
งานบางชิ้นมีความคาบเกี่ยวกันอย่างใกล้ชิด ไม่ชัดเจนว่าเป็นงานแฟนตาซี หรืองานประเภทอื่น ซึ่งขึ้นกับจุดมุ่งหมายของผู้ประพันธ์ถึงความเป็นไปได้ในเรื่องเหนือจริง เช่น เรื่อง A Midsummer Night's Dream หรือ Sir Gawain and the Green Knight ทำให้จุดเริ่มต้นแท้จริงของวรรณกรรมแฟนตาซีไม่อาจระบุชี้ชัดลงไปได้
[1]
สำหรับวรรณกรรมแฟนตาซียุคใหม่ อาจเริ่มจากผลงานของจอร์จ แมคโดนัลด์ นักประพันธ์ชาวสก๊อตผู้เขียนเรื่อง The Princess and the Goblin และ Phantastes ซึ่งเรื่องหลังนี้นับว่าเป็นงานแฟนตาซีสำหรับผู้ใหญ่เรื่องแรกของโลก แมคโดนัลด์เป็นแรงบันดาลใจสำคัญยิ่งต่อ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน และ ซี. เอส. ลิวอิส นักประพันธ์งานแฟนตาซีอีกผู้หนึ่งในยุคเดียวกันนี้คือ วิลเลียม มอร์ริส กวีชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงที่ได้แต่งนวนิยายไว้มากมาย รวมถึงเรื่อง The Well at the World's End
ถึงกระนั้น วรรณกรรมแฟนตาซีก็ยังไม่เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้อ่านกว้างขวางนัก
เอ็ดเวิร์ด พลังเคทท์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ ลอร์ดดันเซนี (Lord Dunsany) เป็นผู้ริเริ่มงานเขียนแนวนวนิยายและเรื่องสั้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มของความนิยมที่เข้าถึงผู้อ่านมากขึ้น นักเขียนงานแฟนตาซีแนวนี้ในยุคนั้นได้แก่ เอช. ไรเดอร์ แฮ็กการ์ด รุดยาร์ด คิปลิง และ เอ็ดการ์ ไรซ์ เบอร์โรส์ รวมถึง อับราฮัม เมอร์ริทท์ ต่างพากันสร้างผลงานแฟนตาซีในแขนงที่เรียกกันว่า "Lost World" ซึ่งเป็นวรรณกรรมแฟนตาซีแขนงที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในช่วงต้นของคริสต์ศตวรรษที่ 20 ผลงานวรรณกรรมแฟนตาซีสำหรับเด็กระดับคลาสสิคได้เผยแพร่ในยุคนั้นหลายเรื่อง เช่น ปีเตอร์ แพน และ พ่อมดมหัศจรรย์แห่งออซ เป็นต้น สิ่งที่เกิดขึ้นคือ งานแฟนตาซีแขนง "Juvenile" (แฟนตาซีสำหรับเด็ก) จะเป็นที่นิยมและยอมรับมากกว่าวรรณกรรมแฟนตาซีสำหรับผู้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้เหล่านักเขียนจึงพากันสร้างผลงานออกมาเป็นวรรณกรรมสำหรับเด็กเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้เกิดผลกระทบต่องานแฟนตาซีทั้งหมดที่สร้างขึ้นในยุคนั้น ไม่เว้นแม้แต่ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ล้วนถูกจัดกลุ่มไปว่าเป็น วรรณกรรมเยาวชน กันทั้งนั้น
ปี ค.ศ. 1923 ได้มีนิตยสารที่มุ่งเน้นเนื้อหาเกี่ยวกับ
นวนิยายแฟนตาซี โดยเฉพาะ ชื่อว่า Weird Tales หลังจากนั้นก็เกิดมีนิตยสารแนวนี้ขึ้นอีกมาก ฉบับที่มีชื่อเสียงคือ The Magazine of Fantasy and Science Fiction การเผยแพร่งานผ่านนิตยสารทำให้วรรณกรรมแฟนตาซีเผยแพร่สู่ผู้อ่านจำนวนมากขึ้น และเป็นที่นิยมอย่างสูงทั้งในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษ นิตยสารบางฉบับเริ่มจับแนวทางของนิยายวิทยาศาสตร์ด้วย ทำให้วรรณกรรมสองสาขานี้มีความเกี่ยวพันซึ่งกันและกันมากกว่าสาขาอื่นๆ
เมื่อถึง ปี ค.ศ. 1950 วรรณกรรมแฟนตาซีแนว "ดาบและเวทมนตร์" ก็สามารถเข้าถึงผู้อ่านเป็นวงกว้าง ดังเห็นในความสำเร็จของ Conan the Barbarian ของ
โรเบิร์ต อี. โฮวาร์ด หรือ Fafhrd and the Gray Mouser ของ ฟริตซ์ ไลเบอร์ และแล้วก็เกิดวรรณกรรมแฟนตาซีแขนงใหม่ คือ "แฟนตาซีระดับสูง" (High Fantasy) เรื่องที่มีชื่อเสียงมากที่สุดคือผลงานของ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน เรื่อง เดอะฮอบบิท และ เดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ซึ่งส่งผลให้มีวรรณกรรมแฟนตาซีเกิดขึ้นสู่บรรณพิภพเป็นจำนวนมาก ผลงานอื่นๆ เช่น ตำนานแห่งนาร์เนีย ของ ซี. เอส. ลิวอิส และ พ่อมดแห่งเอิร์ธซี ของ เออร์ซูลา เค. เลอกวิน ทำให้ความนิยมในวรรณกรรมสาขานี้แข็งแกร่งมั่นคงยิ่งขึ้น
ความนิยมในวรรณกรรมแฟนตาซียังคงสืบเนื่องต่อมาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 21 ซึ่งเกิดปรากฏการณ์หนังสือขายดีที่สุด จากเรื่อง
แฮร์รี่ พ็อตเตอร์ ผลงานของ เจ. เค. โรว์ลิ่ง ขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ที่ดัดแปลงจากวรรณกรรมแฟนตาซีก็เกิดขึ้นมากและประสบผลสำเร็จหลายเรื่อง เรื่องที่โดดเด่นที่สุดได้แก่ ภาพยนตร์ไตรภาคเดอะลอร์ดออฟเดอะริงส์ ของผู้กำกับภาพยนตร์ ปีเตอร์ แจ็คสัน

Cheval



Le cheval (Equus ferus caballus[1],[2] ou equus caballus) est un grand mammifère herbivore et ongulé appartenant à l'une des sept espèces de la famille des équidés. Il a évolué au cours des dernières 45 à 55 millions d'années à partir d'un petit mammifère possédant plusieurs doigts pour devenir l'animal à sabot unique que l'on connait aujourd'hui. L'utilisation de cet animal domestiqué il y a environ 5 500[3] ou 4 000 ans se serait répandue de 3 000 à 2 000 ans av. J.C. à toute l'Eurasie. Bien que la quasi-totalité des chevaux soient aujourd'hui domestiques, le cheval de Przewalski est considéré comme le dernier vrai cheval sauvage, et il existe de nombreux chevaux domestiques retournés à l'état sauvage.
Il s'agit d'une espèce animale employée par l'
Homme et celui-ci a développé un vaste vocabulaire spécialisé pour décrire les concepts liés au cheval. Ce lexique va de son anatomie et sa morphologie aux étapes de sa vie en passant par sa couleur, ses races, sa locomotion et son comportement. En ce qui concerne les spécificités liées à l'espèce, les chevaux comptent sur leur vitesse pour échapper aux prédateurs, ont un bon sens de l'équilibre, un fort instinct de fuite et un trait inhabituel dans le règne animal : ils sont capables de dormir debout tout comme en position couchée. Les femelles, appelées juments, mettent bas après onze mois de gestation un petit nommé poulain. Celui-ci peut se lever et courir peu de temps après sa naissance. La plupart des chevaux domestiques sont dressés pour l'équitation entre l'âge de deux et quatre ans. Ils atteignent leur plein développement à cinq ans en moyenne et leur durée de vie va environ de 25 à 30 ans.
Des siècles durant, les chevaux furent des animaux de
guerre et de transport au service des hommes. Ils permirent l'essor du commerce et l'expansion de civilisations sur de grandes étendues. Considéré comme « la plus noble conquête de l'homme », présent dans les mythes, les légendes, nombre d'encyclopédies spécialisées et toutes les formes d'art, le cheval est, de tous les animaux, celui qui a sans doute le plus marqué l'histoire et les progrès de l'humanité[4]. Il est à l'origine de métiers liés à son entretien, son commerce ou aux activités sportives d'équitation, les plus célèbres étant les sports hippiques. Dans la plupart des pays développés, le cheval est désormais monté pour les loisirs et les compétitions sportives, mais il peut également être utilisé en thérapie, ou pour la production de biens de consommation grâce à sa viande, son lait, son cuir et même son urine. Dans d'autres pays, le cheval reste un partenaire indispensable à l'agriculture et au transport. L'entretien des chevaux domestiques demande un matériel particulier et l'attention de spécialistes.
Les chevaux sont divisés en trois types selon leur tempérament : les
sang chaud caractérisés par leur vitesse et leur endurance, les sang froid, plus lents et destinés aux travaux pénibles, et les demi-sang, ou warmbloods, issus de croisements entre des chevaux à sang chaud et à sang froid, qui sont souvent destinés aux sports équestres en particulier en Europe. Il existe plus de 300 races de chevaux dans le monde.

วันพุธที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2553

เทศกาลล่าเเมวน้ำ


การล่าแมวน้ำในแคนาดาจะจัดเป็นประจำทุกปี โดยกลุ่มดูแลสิทธิของสัตว์หลายกลุ่ม บอกว่า การล่าแมวน้ำ ซึ่งเป็นเทศกาลล่าสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำที่ใหญ่ ที่สุดในโลก เป็นการทารุณกรรมและยากที่จะคอยติดตามดูแล อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อจำนวนประชากรของแมวน้ำอีกด้วย แต่หน่วยงานด้านการประมงและนักล่าแมวน้ำปกป้องเรื่องนี้ โดยยืนยันว่า เป็นการล่าอย่างพอเพียง และมีการจัดการที่ดี




สำหรับปีนี้ บรรดาพรานล่าแมวน้ำต้องดำเนินหลายขั้นตอนในการล่าแมวน้ำ เพื่อให้แน่ใจว่า แมวน้ำเหล่านั้นตายก่อนที่พวกมันจะถูกถลกหนัง รวมทั้งต้องตัดเส้นเลือดใต้ ครีบของมัน ตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในรายงานของสหภาพยุโรป เมื่อเดือนธันวาคมที่แล้ว และปีนี้จำนวนแมวน้ำที่ได้รับอนุญาตให้ล่าได้มีทั้งหมด 275,000 ตัว สูงขึ้นจากเมื่อปีที่แล้ว ที่อนุญาตให้ล่าได้ 270,000 ตัว


อ่านข่าวนี้แต่ไม่เห็นรูป เลยไปค้นหาภาพมาให้ชมถึงความโหดร้าย ของมนุษย์ ก็เลยมาคิดว่า พวกฝรั่งเนี้ย เค้าจะทำอะไรตามหลักวิชาการดีเหมือนกัน การล่าเพื่อความพอเพียง ไม่ใช่ล่าเพื่ออาหาร แต่ล่าเพื่อการพาณิชย์ ( พอเพียงจริงๆ สองแสนเจ็ดหมื่นกว่าตัว คงได้เงินมาหลาย แน่ๆ ) และลดปริมาณของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ใช้ชีวิตอยู่ในน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลก สหภาพยุโรปก็เอากับเขาด้วยนะ อนุญาติให้ล่าแต่ต้องไม่ทารุณมัน ด้วยการตีที่หัวแล้ว ใช้มีดตัดเส้นเลือด ก่อนถลกหนัง ก็มันก็เจ็บ และ ตายเหมือนกัน ( หรือเพียงเพื่อเป็นหลักการรักษาคุณภาพของหนังแมวน้ำ ) ทำไม มนุษย์ไม่มีอะไรที่ทำได้ดีกว่านี้แล้วหรือ ช่วยกัน ช่วยกันหยุดการทารุณ และ การฆ่าสัตว์


วันเสาร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2553

Unicorn

A unicorn (from Latin unus 'one' and cornu 'horn') is a mythological creature. Though the modern popular image of the unicorn is sometimes that of a horse differing only in the horn on its forehead, the traditional unicorn also has a billy-goat beard, a lion's tail, and cloven hooves—these distinguish it from a horse. Marianna Mayer has observed (The Unicorn and the Lake), "The unicorn is the only fabulous beast that does not seem to have been conceived out of human fears. In even the earliest references he is fierce yet good, selfless yet solitary, but always mysteriously beautiful. He could be captured only by unfair means, and his single hornwas said to neutralize poison.

History

Unicorns in antiquity
A one-horned animal (which may be just a
bull in profile) is found on some seals from the Indus Valley Civilization.Seals with such a design are thought to be a mark of high social rank.[

Biblical

An animal called the re’em (Hebrew: רְאֵם‎) is mentioned in several places in the Hebrew Bible, often as a metaphor representing strength. "The allusions to the re'em as a wild, un-tamable animal of great strength and agility, with mighty horn or horns (Job xxxix. 9-12; Ps. xxii. 21, xxix. 6; Num. xxiii. 22, xxiv. 8; Deut. xxxiii. 17; comp. Ps. xcii. 11), best fit the aurochs (Bos primigenius). This view is supported by the Assyrian rimu, which is often used as a metaphor of strength, and is depicted as a powerful, fierce, wild mountain bull with large horns."[3] This animal was often depicted in ancient Mesopotamian art in profile, with only one horn visible.
The translators of the
Authorized King James Version of the Bible (1611) followed the Greek Septuagint (monokeros) and the Latin Vulgate (unicornis)[4] and employed unicorn to translate re'em, providing a recognizable animal that was proverbial for its un-tamable nature. The American Standard Version translates this term "wild ox" in each case.

วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2553


9 ข้อที่ควรรู้ก่อนไปเมืองนอก!

ควรเตรียมตัวอย่างไร? และมีอะไรบ้างที่ควรจัดให้พร้อมเอาไว้?

นอกจากนั้นพี่ได้รวมเอาเวปไซด์ที่น่าเข้าชมและที่สำคัญๆ เกี่ยวกับการศึกษาต่อต่างประเทศในประเทศต่างๆและทวีปต่างๆจากทั่วโลกมาให้น้องๆได้รู้จักกัน บางแหล่งอาจเข้าไปแวะชมได้ในบ้านเราเนื่องจากเป็นสถาบันแนะแนวการศึกษาต่างๆประเทศที่เชื่อถือได้และได้รับมาตรฐานรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการและมหาวิทยาลัยทั่วโลก รับรองว่าอ่านการเตรียมพร้อมและความไม่ประมาทจะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นใจนะคะ (มีชัยไปหว่าครึ่งแล้วนะคะ)

หนึ่ง หาข้อมูลว่าว่าประเทศที่จะเดินทางไปนั้นมีกฎหมาย ห้ามการนำสิ่งของใดเข้าประเทศ ในบางประเทศ เช่น ประเทศสิงคโปร์และประเทศ มาเลเซีย การนำอาวุธปืน กระสุน วัตถุระเบิด หรือยาเสพติดร้ายแรงเข้าประเทศจะ มีโทษถึงประหารชีวิต สำหรับประเทศญี่ปุ่นมีกฎหมายห้ามนำยาคุมกำเนิดเข้า ประเทศโดยไม่ได้รับอนุญาต

สองไม่ควรรับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่า สิ่งของนั้นไม่เป็นของที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธ หรือสารต้องห้าม เพราะ หากถูกเจ้าหน้าที่ปลายทางตรวจพบจะยากในการแก้ข้อหา

สองไม่ควรรับฝากสิ่งของจากผู้อื่น เว้นแต่จะได้ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยตนเองแล้วว่า สิ่งของนั้นไม่เป็นของที่ผิดกฎหมาย เช่น ยาเสพติด อาวุธ หรือสารต้องห้าม เพราะ หากถูกเจ้าหน้าที่ปลายทางตรวจพบจะยากในการแก้ข้อหา

สี่หนังสือเดินทางเป็นเอกสารสำคัญมากควรถ่ายสำเนาเก็บไว้อย่างน้อย 1 ชุด และ ในกรณีที่หนังสือเดินทางหายให้แจ้งความต่อตำรวจท้องถิ่นและนำใบแจ้งความมา ติดต่อเจ้าหน้าที่สถานทูต หรือสถานกงสุลไทยที่อยู่ใกล้ที่สุดทันที เพื่อขอออกเอกสาร การเดินทางแทน กรณีเช่นนี้ หากมีบัตรประจำตัวประชาชนมาแสดงก็จะช่วยให้ออก เอกสารการเดินทางได้เร็วขึ้น

ห้า ควรหมั่นตรวจสอบอายุของวีซ่า เพราะหากวีซ่าขาดอายุท่านอาจถูกปรับ จำคุก และ/หรือส่งตัวกลับประเทศไทยได้

หก กรณีประสบเหตุร้ายในต่างประเทศ เช่น ประสบอุบัติเหตุ ถูกล่อลวงไปค้าประเวณี ถูกหน่วงเหนี่ยวกักขังโดยมิชอบ ท่านสามารถขอความช่วยเหลือจากสถานทูต สถานกงสุล ไทยได้ทุกแห่ง แม้ว่าท่านอาจไม่มีหนังสือเดินทาง หรือวีซ่าขาดอายุ หรือเป็นผู้เข้าเมือง โดยผิดกฎหมายก็ตาม

เจ็ด ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะเวลานานควรแจ้ง ชื่อ ที่อยู่ ให้สถานทูตหรือ สถานกงสุลไทยประจำประเทศที่ไปอยู่ทราบ รวมทั้งแจ้งการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ทุกครั้ง เพื่อทางสถานทูต สถานกงสุลสามารถติดต่อท่านได้ในยามฉุกเฉิน

แปด ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศควรเป็นอย่างยิ่งที่จะนำเงินไปโดยใช้เช็คเดินทางแล้วจึงค่อยไปเปิดบัญชีนำเช็คนี้ฝากกับทางแบงค์ของประเทศนั้นๆเพื่อความปลอดภัยไม่ควรนำเงินสดไปมากเกินเป็นหมื่นๆเหรียญนะคะ ไม่กี่พันก็พอแล้วเผื่อฉุกเฉิน หากจะให้ดีควรที่จะทำบัตรเครดิตเอาไว้ในกรณีจำเป็นที่จะต้องเช่าที่พักหรือเช่าพาหนะขับขี่จะได้สามารถรูดการ์ดได้เพื่อความสะดวกในการเดินทางที่ปลอดภัย

เก้า ผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศเป็นระยะเวลานานควรที่จะทำประกันสุขภาพหรือประกันชีวิตไว้เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากค่ารักษาพยาบาลในต่างประเทศนั้นสูงมากดังนั้นการทำประกันสุขภาพเอาไว้แต่เนิ่นๆจะสามารถป้องกันการเสียค่าใช้จ่ายในคราวมีอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดได้ ที่สำคัญการตรวจสุขภาพและทำฟัน หรือการฉัดวัคซีนป้องกันโรคต่างๆเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนการเดินทางไปเมืองนอกนะคะ สุขภาพเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะไม่ว่าจะเกินทางไปทำงานหรือเรียนที่ไหนหากสุขภาพไม่ดีก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากกลับบ้านอย่างเดียว