วันจันทร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

วิธีการอ่านหนังสือให้ไว เข้าใจง่าย มีเทคนิคการอ่าน 5 ขั้นตอน กล่าวคือ
1. Prepare ( การเตรียมตัวอ่าน )
2. Preview ( การอ่านแบบผ่าน )
3. Passive Reading ( การอ่านแบบข้าม )
4. Active Reading ( การอ่านแบบสรุป )
5. Selective Reading ( การเลือกอ่าน )

Prepare ( การเตรียมตัวอ่าน ) ขั้นตอนแรกนี้ ผู้อ่านต้องพยายามถามคำถามที่สำคัญ 3 ข้อ คือ ทำไมต้องอ่านหนังสือเล่มนี้? อะไรบ้างที่ผู้อ่านรู้อยู่แล้วในหนังสือเล่มนี้? และอะไรบ้างที่ผู้อ่านต้องการจะรู้จากหนังสือเล่มนี้? เมื่อได้คำตอบแล้ว ผู้อ่านต้องตั้งปณิธานให้แนวแน่ ไม่อยากนั้นอาจจะหลงทาง ต่อจากนั้นดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปได้เลย

Preview ( การอ่านแบบผ่าน ) ขั้นตอนก็เพื่อทำความคุ้นเคยกับโครงสร้างของหนังสือที่อ่าน ซึ่งอาจใช้เวลาเพียง 5 นาทีเท่านั้นเอง โดยหลักการอ่านแบบผ่านที่สำคัญ คือ
-สิ่งที่ต้องอ่าน : ปกหน้า ปกหลัง ปกด้านใน สารบัญ ดัชนี และบรรณานุกรม
-สังเกต : โครงสร้างของหนังสือ เช่น ชื่อบท หัวข้อหลัก หัวข้อรอง รูปภาพ กราฟ การ์ตูน และรูปถ่าย
-กำจัด : เนื้อหาในหนังสือที่ผู้อ่านมั่นใจ ว่าไม่ต้องอ่าน
-เน้น : เนื้อในหนังสือที่ผู้อ่านต้องการ
-ถามย้ำ : ถามตัวเองอีกครั้งว่า อะไรคือสิ่งที่ผู้อ่านต้องการจากหนังสือเล่มนี้

Passive Reading ( การอ่านแบบข้าม ) การอ่านแบบนี้ ต้องพยายามสแกนแต่ละหน้าอย่างรวดเร็ว หาคำศัพท์ที่โดดเด่น สังเกตข้อความที่หนังสือ โดยเฉพาะข้อความที่เน้นตัวหนา ตัวเอียง พยายามทำความเข้าใจกับคำศัพท์ที่ใช้ในหนังสือ หากผู้อ่านยังไม่คุ้นเคย

Active Reading ( การอ่านแบบสรุป ) หมายถึง การอ่านย่อหน้าแรกของแต่ละบท อ่านประโยคแรกของทุก ๆ ย่อหน้า และประโยคท้ายสุด ถ้าย่อหน้านั้นมีความยาวมาก ขณะที่อ่านให้ใช้ปากกาเน้นข้อความ ขีดเส้นใต้ วงกลมใจความสำคัญ หรือจดสรุปความเข้าใจ หรือเขียนเป็นแผนที่ความคิด ( Mind map ) ก็ได้

Selective Reading ( การเลือกอ่าน ) อ่านเฉพาะในสิ่งที่ผู้อ่านต้องการอ่าน อ่านเพื่อหาคำตอบที่ผู้อ่านค้นหา และหัวข้อต่าง ๆ ที่ผู้อ่านสนใจ

วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

หน้ากาก

หน้ากาก คือเครื่องบังใบหน้าทั้งหมดหรือบางส่วนสวมใส่เพื่อป้องกันสิ่งต่าง ๆ ใส่เพื่อปกปิดใบหน้า ใส่เพื่อ
เป็นการแสดง หรือเพื่อความบันเทิง หน้ากากมีมาตั้งแต่สมัยโบราณทั้งเพื่อประกอบพิธีกรรมและไว้ใช้งาน หน้ากากจะสวมไว้ที่หน้า แต่ก็มีการใส่ที่ส่วนอื่นของร่างกายด้วย เช่นในบางส่วนในออสเตรเลียที่สวมหน้ากากโทเท็มที่ตัว ขณะที่ผู้หญิงชาว Inuit จะสวมหน้ากากนิ้วไว้ขณะเล่าเรื่องหรือเต้นรำ


หน้ากากแฟนซีสวย ๆ
































วันจันทร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ปัญหา Y2K คืออะไร
Y2K คืออะไร
คำตอบสั้นๆคือคำย่อของ Year 2000 ซึ่งหมายถึงปี ค.ศ. 2000 โดย
Y ย่อมาจากคำว่า Year
K เป็นหน่วยในการวัดค่าต่างๆ ในระบบเมตริก มีค่าเท่ากับ 1000
2K จึงมีค่า 2x1000 เท่ากับ 2000
ดังนั้น Y2K ก็คือ Year 2000 นั่นเอง
ปัญหา Y2K คืออะไร
ปัญหา Y2K คือปัญหาซึ่งจะเกิดขึ้นกับระบบคอมพิวเตอร์และเครื่องมือทุกชนิดที่มี ส่วนควบคุมเป็น Micro Chip ซึ่งมีการทำงานต่างๆขึ้นกับวันและเวลาในตัว Micro Chip ที่เราเรียกว่า Real Time Clock (RTC) หากอุปกรณ์ใดก็ตามที่ไม่ได้ใช้วันและเวลาในตัว Micro Chip ในการทำงานหรือใช้เฉพาะเวลาเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้รับผลกระทบจาก ปัญหา Y2K เลย
ปัญหา ค.ศ. 2000 นอกจากจะเรียกว่า Y2K Bug แล้วยังมีชื่ออื่นอีก เช่น Millennium Bug เป็นต้น

วันเสาร์ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

History

Tango is a dance that has influences from Spanish and African culture.[2] Dances from the candombe ceremonies of former slave peoples helped shape the modern day Tango. The dance originated in lower-class districts of Buenos Aires and Montevideo. The music derived from the fusion of various forms of music from Europe.[3] The word "tango" seems to have first been used in connection with the dance in the 1890s. Initially it was just one of the many dances, but it soon became popular throughout society, as theatres and street barrel organs spread it from the suburbs to the working-class slums, which were packed with hundreds of thousands of European immigrants, primarily Italians, Spanish and French.[4]
In the early years of the 20th century, dancers and orchestras from Buenos Aires travelled to Europe, and the first European tango craze took place in Paris, soon followed by London, Berlin, and other capitals. Towards the end of 1913 it hit New York in the USA, and Finland. In the USA around 1911 the word "tango" was often applied to dances in a 2/4 or 4/4 rhythm such as the one-step. The term was fashionable and did not indicate that tango steps would be used in the dance, although they might be. Tango music was sometimes played, but at a rather fast tempo. Instructors of the period would sometimes refer to this as a "North American tango", versus the "Rio de la Plata tango". By 1914 more authentic tango stylings were soon developed, along with some variations like Albert Newman's "Minuet" tango.
In Argentina, the onset in 1929 of the
Great Depression, and restrictions introduced after the overthrow of the Hipólito Yrigoyen government in 1930 caused tango to decline. Its fortunes were reversed as tango again became widely fashionable and a matter of national pride under the government of Juan Perón. Tango declined again in the 1950s with economic depression and as the military dictatorships banned public gatherings, followed by the popularity of rock and roll.
In 2009 the tango was declared as part of the world's "intangible cultural heritage

วันอังคารที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

+++ที่สุดในโลกของ ต้นไม้ พืชและดอกไม้+++

ต้นไม้ (Tree) ที่อุบัติขึ้นในยุคแรกๆ ของโลกคือ ต้น the maidenhair (Ginkgo biloba) of Zhejiang ในประเทศจีน มันอุบัติขึ้นในโลกเมื่อราว 160 ล้านปีมาแล้วในยุค Jurassic
ต้นไม้ที่มีอายุยืนยาวมานานที่สุดในโลกคือ ต้นสน (a bristlecone pine) พันธุ์ Pinus longaeva ที่พบขึ้นอยู่บนภูเขาในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ซึ่งมีอายุยืนยาวมากว่า 5,500 ปี


ต้นไม้ที่สูงที่สุดในโลกคือ ต้น 'Mendocio Tree' a coast redwood ในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา วัดได้สูง 112.014 เมตร (367 ฟุต 6 นิ้ว) มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.139 เมตร (10 ฟุต 4 นิ้ว) คำนวณว่ามันมีอายุไม่น้อยกว่า 1,000 ปี และยังคงจะสูงขึ้นเรื่อยๆ


ต้นไม้ที่มีขนาดรอบลำต้นใหญ่ที่สุดในโลกคือ ต้น European chestnut หรือที่เรียกกันว่า 'Tree of the Hundred Horses' บนเกาะ Sicily ประเทศอิตาลี มีขนาดรอบลำต้นวัดได้ 57.9 เมตร (190 ฟุต)

ต้นกระบองเพชร (Cactus) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ ต้นกระบองเพชรที่เรียกว่า the saguaro ที่พบในรัฐอริโซนา สหรัฐอเมริกา และเม็กซิโก มีต้นสูงถึง 17.67 เมตร (57 ฟุต 11 3/4 นิ้ว)


ต้นยูคาลิปตัส (Eucalyptus) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ ต้นยูคาลิปตัส ที่ Watts River ในรัฐวิคตอเรีย (Victoria) ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งสูงถึง 132.6 เมตร (435 ฟุต)